MAZDA 2 รุ่นพิเศษ Rookie Drive Sports ดีไซน์ภายใต้แนวคิด New Wave Design มุ่งเน้นให้เป็นรถยนต์ที่มอบความสนุกอย่างไร้ขีดจำกัด มีความพิเศษของดีไซน์ที่หลากหลาย ตอบโจทย์วัยรุ่นยุคใหม่เจเนอเรชั่น Z เป็นรถคันแรกที่สะท้อนให้เห็นถึงตัวตนและคุณค่าของผู้ขับขี่
ภาพรวมในการออกแบบใบหน้าเน้นปรับเปลี่ยนกระจังหน้าใหม่เป็นแบบทึบสีขาวตัดกับสีตัวรถ ดูคล้ายกับกระจังรถไฟฟ้า พร้อมตัดขอบรอบกระจังด้วยสีดำเงา ทอดยาวไปจรดกันชนหน้าชุดใหม่ได้อย่างกลมกลืน ดูแล้วสวยทันสมัย สปอร์ตโฉบเฉี่ยว น่าจะถูกใจวัยรุ่นเพิ่มมากขึ้น ชุดโคมไฟหน้าเป็นแบบโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED สามารถปิดเองโดยอัตโนมัติเมื่อเข้าเกียร์ P ไม่รบกวนสายตาผู้อื่นเวลาจอดรถ ด้านข้างตัวถังโดดเด่นด้วยล้อดีไซน์แปลกตา เป็นล้อกระทะขนาด 15 นิ้ว แต่ดีไซน์ฝาครอบเหมือนล้อแม็กทูโทนแต่งด้วยสีตัวรถและสีส้มบ่งบอกความเป็นรุ่นพิเศษ บริเวณกระจกมองข้างก็ตกแต่งด้วยสีส้มดูรับกัน เหนือขั้นไปบนหลังคาแต่งด้วยลายคาร์บอนสีขาวรับกับกระจังหน้า ชายหลังคาก็ติดตั้งสปอยเลอร์สีส้มคุมโทนได้ลงตัวตลอดคัน ด้านท้ายรถชุดไฟๆยังคงรูปทรงสวบงาม โฉบเฉี่ยวสีแดงเข้ม และบริเวณกันชนเพิ่มลูกเล่นการตกแต่งใหม่ด้วยแถบสีดำและขลิบสีส้มเหมือนกับกระจังหน้า เสริมให้ตัวรถมีสีสันที่สะดุดตามากขึ้น
ภายในห้องโดยสาร ยังคงความหรูหราทันสมัย ตกแต่งรายละเอียดต่างๆอย่างปราณีตไม่เป็นรองคู่แข่งในคลาสเดียวกัน โซนควบคุมเมื่อล้มตัวลงนั่ง การจัดวางตำแหน่งอุปกรณ์ต่างๆ เน้นเอาใจผู้ขับขี่ไม่ต้องละมือจากพวงมาลัยเวลาขับรถ พวงมาลัยรุ่นนี้เป็นแบบ 3 ก้านทรงเดิมยูรีเทรนไม่ได้หุ้มหนังจับแล้วดูบางไปนิด ก้านด้านซ้ายติดตั้งสวิทซ์ควบคุมเครื่องเสียง บูทูธโทรศัพท์ และควบคุมจอดิจิตอลบริเวณแผงหน้าปัดเพื่อดูข้อมูลการขับขี่ต่างๆ ซึ่งก็เหมือนเดิมกับ Mazda 2 ในรุ่นที่ผ่านๆมา คอนโซลกลางเพิ่มความสะดวกสบายด้านการติดต่อสื่อสารด้วยระบบ Mazda Connect ที่รองรับ Apple CarPlay แสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว (เวลารถเคลื่อนที่จะตัดระบบสัมผัสออกไป) แต่ยังสามารถควบคุมด้วย Center Commander ปุ่มควบคุมอัจฉริยะ จัดวางในตำแหน่งที่ใช้งานจัดวางในตำแหน่งที่ใช้งานสะดวกอยู่ด้านหลังคอนโซนเกียร์ และจอชุดนี้ยังลิงค์กับระบบเกียร์เมื่อเข้าเกียร์ถอยหลังกล้องมองภาพจะแสดงทันทีช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ส่วนรายละเอียดความแปลกใหม่ที่เพิ่มเติมในรุ่นปรับโฉบใหม่นี้ จะเน้นที่การตกแต่งแผงแดชบอร์ดที่สวยงามทันสมัยด้วยแถบคาดขนาดใหญ่สีเดียวกับตัวรถตรงเก๋ดี โดยส่วนตัวชอบมาก และบริเวณเบาะนั่งในรุ่นเริ่มต้นอย่าง 1.3 C ไม่ได้หุ้มด้วยผ้าอย่างเดียวแล้ว แต่จะปรับวัสดุหุ้มเบาะใหม่ให้ถูกใจวันรุ่นด้วยหนังสังเคราะห์สีดำสลับกับแถบผ้ายีนส์สีเทาเดินด้ายขาวทำให้ภาพรวมของห้องโดยสารดูเท่ น่าจะถูกใจวัยรุ่น
ขุมพลังขับเคลื่อน ใน Mazda 2 รุ่นล่าสุด ยังคงโดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ที่มีให้เลือกถึง 2 รูปแบบคือ เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร (SKYACTIV-G) ที่ให้ทั้งสมรรถนะความแรงและการขับขี่ดีเยี่ยม ประหยัดน้ำมันถึง 23.3 กม./ลิตร และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1.5 ลิตร (SKYACTIV-D) แรงและประหยัดน้ำมันถึง 26.3 กม./ลิตร พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟไดรฟ์ 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด Activematic ที่ช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างสนุกสนานและราบรื่นยิ่งขึ้น นอกจากนี้ รถรุ่นนี้ยังโดดเด่นด้วยระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง (GVC Plus) ที่ช่วยควบคุมสมรรถนะในการขับขี่ให้แม่นยําและสมดุลเพื่อให้ผู้ขับรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรถอย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เพื่อมอบความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้ผู้โดยสารทุกตำแหน่ง
สำหรับ MAZDA 2 รุ่นพิเศษ Rookie Drive เราเน้นทดลองขับ ยังคงขับเคลื่อนเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน SKYACTIV-G รุ่นนี้ตัดฝาครอบเครื่องออกไป พื้นฐานเป็น แบบ 4 สูบ ขนาด 1.3 ลิตร กำลังสูงสุด 93 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ / นาที แรงบิดสูง 123 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดแมนนวล การทำงานของเกียร์ชุดนี้ ถือว่าขับสนุกกว่าเกียร์ CVT จังหวะการสับเปลี่ยนตำแหน่งทำได้รวดเร็ว สัมพันธ์กับความเร็ว พร้อมความราบเรียบ รอยต่อระหว่างเกียร์แสดงให้ทราบเล็กน้อย แต่ไร้อาการกระตุก การเร่งความเร็วช่วงความเร็วต่ำในเมือง ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน เร่งได้เร็วแบบเนียนๆ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม ทำได้ประมาณ 14 วินาที และการเร่งแซงช่วงความเร็วที่ใช้บ่อยๆ 80-120 กม./ชม. ก็ยังสามารถตอบสนองได้อย่างมั่นใจ แต่ถ้าต้องการใช้งานในย่านความเร็วสูงเกิน 140 กม./ชม. ก็ต้องแช่คันเร่งนานสักหน่อย โดยมีความเร็วสูงสุดรองรับไว้ที่ประมาณ 180 กม./ชม.
การควบคุมรถก็ยังคงข้อดีที่ทำให้การขับขี่ที่คล่องตัว ควบคุมรถง่าย พวงมาลัยให้น้ำหนักที่ดีมีความนิ่ง แม่นยำ ไม่เบามากเกินไป ขณะที่ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังเป็นแบบกึ่งอิสระทอร์ชั่นบีม ค่อนข้างน่าพอใจกับการตอบสนองที่ดีอยู่ตรงกลางระหว่างความนุ่มนวล และการทรงตัวที่วางใจได้ และระบบเบรก ด้านหน้าเป็นแบบดิสก์เบรกพร้อมครีบระบายความร้อน ด้านหลังแบบดรัมเบรก การหยุด และชะลอรถ อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานใช้งานได้อย่างมั่นใจ
การขับขี่ใช้งานในชีวิตประจำวัน จุดเด่นที่น่าสนใจอีกจุด คือความประหยัดน้ำมันตามมาตรฐานอีโคคาร์ขนานแท้ จากการขับขี่ใช้งานจริง ผลลัพธ์ที่แสดงออกมาก็ทำได้ใกล้เคียงตามที่เคลมไว้ 23.3 กม./ลิตร เราทดลองขับใช้งานในหลายๆช่วงการเดินทาง ช่วงความเร็วต่ำความเร็วแปรผันอยู่ที่ประมาณ 70-100 กม./ชม.ทำได้ประมาณ 20-25 กม./ลิตร ส่วนการขับในเมืองช่วงรถติดปานกลาง จนถึงหยุดนิ่งบางช่วงทำได้ประมาณ 12-13 กม./ลิตร โดยรวมก็ยังถือว่า MAZDA 2 รุ่นนี้ให้ความประหยัดในการเดินทางที่ความคุ้มค่าไม่เป็นรองคู่แข่งในกลุ่มซิตี้คาร์เครื่องยนต์สันดาปเหมือนกัน
[คลิปวีดีโอ] ลองขับครั้งแรกช่วงเปิดตัว
https://youtu.be/aiSQd7XTqqs?si=kjKbZxuQzJ027NqA
การทำตลาด Mazda 2 ปี2024 มีจำหน่าย ทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแฮทช์แบค 5 ประตู ดีไซน์ก็มีทั้งแบบ Sport Design และ New Wave Design และรุ่นพิเศษอีก 2 รุ่น คือ Rookie Drive และ Clap Pop ในแบบแฮทช์แบค 5 ประตู ในช่วงนี้มาสด้ามอบข้อเสนอพิเศษด้วยโปรโมชั่นพิเศษมากมาย สนใจก็ลองติดต่อสอบถาม ทดลองขับ ด้วยตัวคุณเองที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ หรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.mazda.co.th
ราคาจำหน่าย NEW MAZDA 2 MY2024
- รุ่น 1.3 C SKYACTIV-G ราคา 599,000 บาท
-1.3 S SKYACTIV-G ราคา 680,000 บาท
- รุ่น 1.3 SP SKYACTIV-G ราคา 730,000 บาท
- XD SKYACTIV-D ราคา 720,000 บาท
- XDL SKYACTIV-D ราคา 830,000 บาท
- รุ่นพิเศษ Rookie Drive Sports SKYACTIV-G ราคา 662,000 บาท
- รุ่นพิเศษ Clap Pop Sports SKYACTIV-G ราคา 647,000 บาท
สุดท้ายนี้ถ้าต้องการสอบถามข้อมูลการขับขี่ หรือแลกเปลี่ยนประสบการณ์การขับขี่รถยนต์รุ่นนี้ สามารถฝากข้อความไว้ที่แฟนเพจ FACEBOOK : Drivingplace.com ได้เลยครับ
TEST DRIVE by WWW.DRIVINGPLACE.COM