มกราคม 17, 2568

Login to your account

Username *
Password *
Remember Me

New Mazda CX- 5 | Mazda Sales (Thailand) Co., Ltd. | บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Drivingplace.com แหล่งรวม :: ข่าวสารยานยนต์ :: รถใหม่ :: ทดสอบรถ :: เทคนิคการขับรถ :: ครบทุกรูปแบบ!

รีวิว HONDA CR-V e:HEV ES ทางเลือกที่มิอาจมองข้าม ราคา 1,589,000 บาท | รีวิวรถใหม่ 2024 Drivingplace Featured

By สิงหาคม 27, 2567 6109

HONDA CR-V เจเนอเรชั่นที่ 6 ในปี 2024 ยังคงมุ่งมั่นทำตลาดรถยนต์พลังงานเลือกด้วย 2 ขุมพลังขับเคลื่อน  ทั้งขุมพลังเบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร  VTEC TURBO และขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว โดยมีให้เลือก 2 รุ่นคือรุ่นท็อป RS และรองท็อป ES ที่เราทดลองขับในครั้งนี้ ซึ่งมีความน่าสนใจมากทีเดียว เมื่อเทียบออฟชั่นที่ให้มาแบบครบๆ กับราคา 1,589,000 บาท ถูกว่ารุ่น RS ถึง 140,000 บาท และระบบฟูลไฮบริด e:HEV ยังให้ความมั่นใจ ด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปีและรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

การดีไซน์รูปลักษณ์ โดยรวม เน้นความสปอร์ตดุดัน กระจังหน้าดีขนาดใหญ่สีดำ Piano Black พร้อมโลโก้ H ด้วยขอบสีฟ้า ชุดไฟหน้ารูปทรงโฉบเฉี่ยวเป็นแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED เป็นเส้นยาว ผสานกับไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED และชุดไฟท้าย แบบ LED รูปทรงยังคงเอกลักษณ์ที่ทอดยาวต่อเนื่องไปขนานกับเสาคู่หลัง กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ปรับไฟฟ้าพร้อมพับเก็บอัตโนมัติ  บริเวณหลังคาเพิ่มความพรีเมียมยิ่งขึ้นกับซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) ขนาดใหญ่ และให้ความสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วย ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-Free Power Tailgate with Walk Away Close) และรุ่น ES ติดตั้งล้ออัลลอยสีดำเงาดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/60R18

ภายในห้องโดยสารมีดีที่ความกว้างขวาง โปร่งสบาย และโดดเด่นด้วยชุดตกแต่งภายในที่พรีเมียม ในรุ่น ES จะเน้นตกแต่งด้วยลายไม้สีเข้ม พร้อมการคุมโทนสีดำเรียบหรูรอบคัน ส่วนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายที่น่าสนใจก็มีทั้ง ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ, ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ (Driver Memory Seat) , ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร (Ambient Light) ที่ได้รับการติดตั้งในหลายตำแหน่ง อาทิ ถาดคอนโซลกลาง แผงประตูหน้าและหลัง และที่วางแก้ว , ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสแบบ Advanced Touch ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto , มาตรวัดความเร็วพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT , อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) , ช่องเชื่อมต่อ USB 4 ตำแหน่ง (USB Type-C 3 ตำแหน่ง ได้แก่ ด้านหน้า 1 และด้านหลัง 2 ตำแหน่ง) ติดตั้งช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และไฟอ่านหนังสือด้านหลัง LED แบบสัมผัส , เบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Sliding) เลื่อนและแยกพับแบบ 60:40 รุ่นเบาะแบบ 5 ที่นั่ง เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้าน สามารถปรับพับลงแนวราบได้เรียบ (Utility Mode) ช่วยเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย และสามารถปรับพับเบาะด้านหน้าและด้านหลัง (Long Mode) เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว ฯลฯ

HONDA CR-V e:HEV ES ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังฟูลไฮบริด ผสานการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์เบนซินใหม่ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนที่มีประสิทธิภาพสูง ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 335 นิวตัน-เมตร ที่ 0 - 2,000 รอบต่อนาที ในรุ่น e:HEV ES เคลมอัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงสุดถึง 20.8 กม./ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 113 กรัม/กิโลเมตร

ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานได้อย่างเหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ใน 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) พร้อมสวิตซ์โหมดการขับขี่ (Drive Mode Switch) สามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่ตามสไตล์ได้อย่างง่ายดาย ทั้ง โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode) โหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode) และโหมดการขับขี่แบบประหยัด (Econ Mode)

เริ่มออกสตาร์ทถ้าเครื่องยนต์มีพลังงานไฟฟ้าในแบตเตอรี่กักตุนไว้มากกว่า 3 ขีด  เครื่องยนต์ยังไม่ทำงาน ระบบแอร์จะทำงานโดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ แต่ถ้าไฟในแบตเตอรี่ไม่พอ เครื่องยนต์จะติดขึ้นเองโดยอัตโนมัติส่งเสียงให้ทราบชัดเจน (สามารถเลือกดูสถานการทำงานของระบบฟลูไฮบริดที่หน้าจอสัมผัสบนคอนโซนกลางกดตรงคำว่าระบบส่งกำลัง) เริ่มขับออกตัวช้าๆแบบกดคันเร่งเนียนๆ ช่วงนี้จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อนโดยที่เครื่องยนต์ยังไม่ทำงาน เมื่อความเร็วเริ่มเติมคันเร่งลงไป เครื่องยนต์จะเริ่มทำงาน และชาร์จไฟฟ้าไปในตัวขณะถอนคันเร่งและเบรค และในช่วงเร่งแซงกดหนักๆเครื่องยนต์จะทำงานเต็มประสิทธิภาพ เมื่อแซงผ่านแล้วลดความเร็วลง และใช้ความเร็วคงที่จะเข้าสู่โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์สลับการทำงานกับโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าตามระดับพลังงานในแบตเตอรี่ที่เก็บและจ่ายสลับกันตลอดเวลา ช่วยเพิ่มความประหยัดในการขับขี่ได้ดีกว่าเครื่องยนต์ปกติได้มากทีเดียว ซึ่งการทดลองขับออกนอกเมืองวางเส้นทางแบบไปกลับ กรุงเทพฯ-พัทยา ใช้ความเร็วเดินทางตามกฏหมายกำหนดประมาณ 90-100 กม./ชม. ตัวเลขความประหยัดเมื่อลองวัดผลหลายๆช่วงทำได้เกิน 20 กม./ลิตร สบายๆ ส่วนการขับขี่ใช้งานทั่วๆไปในเมือง ถ้ารถไม่ติดถึงขั้นสาหัส ขับเคลื่อนด้วยความเร็วต่ำไปเรื่อยๆตามสภาพจราจรตัวเลขขั้นต่ำทะลุเกิน 15 กม./ลิตร สบายๆเพราะระบบฟลูไฮบริดชุดนี้สามารถชาร์จไฟไปเก็บในแบตเตอรี่ได้เร็ว เมื่อไฟฟ้ามีให้ใช้ขับเคลื่อนอย่างสม่ำเสมอเครื่องยนต์ก็ทำงานน้อยลงจึงประหยัดเพิ่มมากขึ้น

การทดลองขับใช้งานทั่วๆไป ได้ลองทั้งโหมด ECON สลับกับโหมด SPORT ในบางช่วงเมื่อออกนอกเมืองถนนโล่ง ซึ่งสัมผัสถึงความแตกต่างจากการขับขี่ได้อย่างชัดเจน ในโหมด ECON ให้สมรรถนะการขับขี่แบบพอเพียงทั้งจังหวะออกตัวและเร่งแซง ถ้าไม่ใจร้อนก็ไม่รู้สึกถึงความอืดอาด ส่วนโหมด SPORT เหมาะกับคนที่ชอบขับรถเร็ว หรือ จำเป็นที่จะต้องขับขี่แบบทำเวลาในบางครั้ง เพราะการขับขี่ในโหมดนี้ รอบเครื่องยนต์จะจัดจ้านมากขึ้น พร้อมกับคันเร่งที่เบา กดลงน้ำหนักเพียงเล็กน้อย ความเร็วพร้อมพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างทันใจในทุกช่วงการเดินทาง

ทางด้านฟิลลิ่งการขับขี่ ต้องบอกว่ารถรุ่นนี้มีความหนักแน่น นุ่มนวลใกล้เคียงรถยุโรป แต่ก็ยังขับขี่ได้คล่องตัว ควบคุมรถง่าย ให้อารมณ์ต่างจาก CR-V รุ่นเดิมอย่างชัดเจน การบังคับเลี้ยวผ่านพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า แปรผันตามความเร็วได้ดี เบาแรงเลี้ยวง่ายช่วงความเร็วต่ำ แต่จะหนักแน่นมากขึ้นเมื่อใช้ความเร็วสูง รวมทั้งการบังคับเลี้ยวผ่านโค้งต่างๆ มีความแม่นยำ ควบคุมรถได้มั่นใจ ขณะเดียวกันระบบช่วงล่างที่มีการพัฒนาใหม่หลายจุดเน้นความแข็งแรงมากขึ้น พร้อมลดน้ำหนักให้เบาลง และปรับตำแหน่งจุดยึดต่างๆใหม่ การขับขี่จะให้ความรู้สึกที่ดีงามในสไตล์นุ่มนวลผสานความหนึบแน่น

HONDA CR-V ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ผสานการทำงานของกล้องด้านหน้าและเรดาร์ ในการตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS) , ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) , ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW) , ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF) , ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) หรือ ครั้งแรกกับระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD) ที่ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืนและปรับองศาของแสงไฟเพื่อลดการรบกวนรถด้านหน้าและคนเดินถนน , ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN) พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่อื่น ๆ อาทิ ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS) (ยกเว้นรุ่น E) พร้อมเซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด , ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC) , ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL) , ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) , ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor) และ ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) (รุ่น e:HEV ES และ e:HEV RS 4WD) , ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)

HONDA CR-V ในปี2024 ยังคงมีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย

ระบบฟูลไฮบริด e:HEV มาพร้อม 2 รุ่นย่อย

- รุ่น e:HEV RS 4WD 5 ที่นั่ง ราคา 1,729,000 บาท

- รุ่น e:HEV ES 5 ที่นั่ง ราคา 1,589,000 บาท

เครื่องยนต์เทอร์โบ มาพร้อม 3 รุ่นย่อย

- รุ่น EL 4WD 7 ที่นั่ง ราคา 1,649,000 บาท

- รุ่น ES 4WD 5 ที่นั่ง ราคา 1,599,000 บาท

- รุ่น E 5 ที่นั่ง ราคา 1,419,000 บาท

สุดท้ายนี้ถ้าต้องการสอบถามข้อมูลการขับขี่ หรือแลกเปลี่ยนประสบการณ์การขับขี่รถยนต์รุ่นนี้ สามารถฝากข้อความไว้ที่แฟนเพจ FACEBOOK : Drivingplace.com ได้เลยครับ

TEST DRIVE  by WWW.DRIVINGPLACE.COM

Rate this item
(1 Vote)
Last modified on วันอังคาร, 27 สิงหาคม 2567 23:32
Kodrivingplace

EXECUTIVE EDITORlaughing

Related items

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์