FORD RANGER 2.2L XLT Hi-Rider 6AT ใหม่ คันที่เห็นอยู่นี้ มาพร้อมการตกแต่งรูปลักษณ์ดุดัน โดยเฉพาะกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ทรงสี่เหลี่ยมคางหมูตกแต่งสีดำเงาตัดขอบโครเมี่ยมผนึกสัญลักษณ์ RANGER บ่งบอกเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น ผสานรูปลักษณ์โดยรวมที่แข็งแกร่ง บึกบึนตลอดคัน พร้อมรายละเอียดในการออกแบบใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น กระจกมองข้าง มือจับประตู บันไดข้างแต่งด้วยสีดำ และกันชนหลังเป็นสีดำเงา รวมถึงการเพิ่มความหล่อเข้มด้วยล้ออัลลอยด์สีดำลวดลายเฉพาะรุ่น ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265 / 65 / 17
ภายในห้องโดยสารการตกแต่งเน้นโทนสีเข้ม ดูเรียบง่าย อุปกรณ์ไม่เยอะ หรือจัดเต็มเท่า RANGER Wildtrak แต่ถือว่าอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการใช้งานใส่มาค่อนข้างครบ ที่อยากให้เพิ่มเติมมีเพียงอย่างเดียวคือ กล้องมองภาพด้านหลังที่จะช่วยให้การถอยจอดสะดวกสบาย และปลอดภัยมากขึ้น แม้ว่าจะติดตั้งสัญญาณเตือนกะระยะถอยหลังมาให้แต่เวลาถอยก็ยังเสียวๆเพราะกระบะท้ายค่อนข้างยาว ในอนาคตถ้าจะใส่เพิ่มคงไม่ยากเพราะรุ่นนี้ มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว เหมือนกับ RANGER รุ่นบนอยู่แล้ว โดยจอที่ติดตั้งมาให้ยังมาพร้อมระบบความบันเทิง SYNC เวอร์ชั่นใหม่ รองรับภาษาไทย การใช้งานผ่าน Apple Car Play และ Android Auto รองรับไฟล์ VDO และเล่นเพลงผ่าน USB ได้สะดวก ซึ่ง USB ด้านหน้ามีให้ใช้งานถึง 2 จุด เผื่อไว้เวลาชาร์จแบตเตอรี่มือถือ
ส่วนแผงหน้าปัดเป็นแบบทรงกลมเรียบๆด้านซ้ายแสดงรอบการทำงานของเครื่องยนต์ ด้านขวาเป็นมาตรวัดความเร็ว และตรงกลางเป็นจอกราฟฟิกขนาดเล็กเน้นแสดงข้อมูลการขับขี่ที่จำเป็นทั้งระยะทางวิ่ง ค่าเฉลี่ยอัตราสิ้นเปลือง และระยะทางวิ่งที่เหลืออยู่เมื่อคำนวณกับปริมาณน้ำมันในถัง ซึ่งสามารถควบคุมการทำงาน หรือเรียกดูค่าต่างๆได้จากสวิทซ์ที่ก้านพวงมาลัยด้านขวาใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน และใกล้ๆกันยังมีสวิทซ์ควบคุมครุยส์คอนโทรลแบบมาตรฐานติดตั้งมาให้ใช้งานด้วยในรุ่นนี้
ทางด้านการตกแต่งภายในห้องโดยสาร เน้นเสริมความหรูเรียบ ด้วยการตกแต่งวัสดุโทนสีดำเทาตัดกับสีบรอนซ์เงิน ทั้งบริเวณแผงแดชบอร์ด แผงข้างประตู และก้านพวงมาลัย ส่วนเบาะนั่งมีขนาดใหญ่ให้ความกระชับนั่งสบาย สามารถปรับเบาะแบบแมนนวลไม่มีระบบไฟฟ้าแต่สามารถปรับให้เข้ากับสรีระได้ไม่ยาก ตำแหน่งการนั่งสามารถยกสูงต่ำได้ แต่การวางตำแหน่งเบาะค่อนข้างสูงตามแบบฉบับรถกระบะยกสูง หรือกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นรอบด้านค่อนข้างปลอดโปร่ง โดยเฉพาะด้านหน้ามองได้ชัดเจนทั้งระยะใกล้-ไกล และการหยิบจับใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ สามารถทำได้สะดวก
สมรรถนะการขับเคลื่อนรีดพลังจากเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ดูราทอร์ค 2.2 ลิตร รุ่นยอดนิยมที่ยังไม่ตกยุค แม้ว่าฟอร์ดจะก้าวล้ำไปอีกขั้นด้วยเปิดตัวเครื่องยนต์ดีเซลบล็อกใหม่ขนาด 2.0 ลิตร ออกมาใช้งานเป็นหลักแล้วก็ตาม โดยเครื่องยนต์ดีเซลพิกัด 2.2 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบ บล็อกนี้ให้กำลังสูงสุดปานกลางที่ 160 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 385 นิวตัน-เมตร ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด สมรรถนะโดยรวมถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน ทั้งด้านความแรง ความประหยัด ความแข็งแกร่งทนทาน และดูแลรักษาง่าย ไม่จุกจิก พิสูจน์การใช้งานกับ RANGER โมเดลนี้มาอย่างยาวงานตั้งแต่ต้นโมเดล แต่มีการปรับปรุงสมรรถนะและแก้ไขจุดบกพร่องต่างๆอย่างต่อเนื่อง จนวางใจได้ในเรื่องการขับขี่ใช้งานในชีวิตประจำวัน
ความแรงของเครื่องยนต์ เมื่อผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ถือว่าเป็นการจับคู่ที่ลงตัว ให้การตอบสนองต่อการเร่งความเร็วได้ดีแบบนุ่มนวลในทุกจังหวะความเร็ว หรือถ้ากดหนักๆจัดเต็มก็ขับสนุก ลากรอบได้ยาว มีอาการกระตุกระหว่างรอยต่อเกียร์ให้ทราบเล็กน้อย การเร่งความเร็วต้องบอกว่าแม้จะไม่ถึงกับดุดันดึงกระชากหลังติดเบาะ แต่กำลังของเครื่องยนต์จัดว่ามีความแรงพอดีเหมาะกับลักษณะของรถ ถ้าลงน้ำหนักคันเร่งอย่างเหมาะสม ก็จะไหลลื่นราบเรียบ ทันใจทั้งการออกตัวและเร่งแซง ส่วนการหยุดหรือชะลอความเร็ว จังหวะการจับเบรก ก็ถือว่าทำได้ดีทั้งระยะการเบรกที่เหมาะสม และการถ่ายน้ำหนักที่นุ่มนวล สามารถรองรับความแรงได้อย่างลงตัวทุกในช่วงความเร็ว
ส่วนจุดเด่นอีกจุดที่ใครได้ขับก็ต้องชื่มชมรถกระบะ RANGER ยุคนี้ คือระบบพวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฟฟ้า (EPAS) ที่เซ็ทน้ำหนักในการเลี้ยวได้ลงตัว ทำให้การควบคุมรถมีความเบาสบาย เลี้ยวง่ายในช่วงความเร็วต่ำ หรือการถอยจอดในพื้นที่แคบไม่ต้องออกแรงเยอะ และเมื่อเพิ่มความเร็วในการเดินทาง ก็สามารถแปรผันน้ำหนักตามความเร็วได้ดี ให้การควบคุมได้อย่างมั่นใจในทุกช่วงความเร็ว ขณะที่ช่วงล่างแม้ว่าจะไม่ใช่รถกระบะระดับท็อปสุดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง แต่การรองรับแรงสั่นสะเทือน และการยึดเกาะถนน ก็ทำได้ดีในสไตล์แข็งแกร่ง แต่ไม่กระด้าง ให้ความนุ่มนวลขับสบายไม่เป็นสองรองใครในตลาด!
การขับขี่ใช้งานในชีวิตประจำวัน นอกจากความแรงแบบสมเหตุสมผล ในด้านความประหยัดก็จัดอยู่ในระดับที่คุ้มค่า สมเหตุสมผล เมื่อทดลองขับในเมืองลองวัดผลหลายๆครั้งในสภาพเส้นทางที่หลากหลาย รถติดมากน้อยสลับกันไปค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10-13 กม./ลิตร ส่วนนอกเมืองช่วงถนนโล่งขับขี่ตามกฎหมายกำหนด 80-90-100-120 กม./ชม ค่าความประหยัดแปรผันตามความเร็วอยู่ที่ประมาณ 15-18 กม./ลิตร
ทางด้านเทคโนโลยีเสริมความปลอดภัยในการขับขี่ ด้วยระดับราคาของ FORD RANGER XLT รุ่นนี้ ที่ไม่ถึง 9 แสนบาท จึงไม่มีระบบความปลอดภัยยุคใหม่เหมือน RANGER Wildtrak รุ่นท็อป ทั้ง ระบบเตือนการชนด้านหน้า , ระบบช่วยรักษาช่องทางจราจร และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ฯลฯ แต่ที่มีมาให้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นขาดไม่ได้ในการขับขี่บนท้องถนนในปัจจุบัน ประกอบด้วย ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) , ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP , ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control , ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HLA , ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ROM , ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมกระจายแรงเบรก (EBD) และสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง ฯลฯ
สำหรับการทำตลาด FORD RANGER โมเดลปี 2021 มีการปรับไลน์อัพใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้งานได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
- FORD RANGER XL สตรีท ราคา 669,000 บาท
- FORD RANGER XL+ สปอร์ต ราคา 689,000 บาท
- FORD RANGER DBL XLT เกียร์ธรรมดา ราคา 799,000 บาท และ FORD RANGER DBL XLT เกียร์อัตโนมัติ ราคา 899,000 บาท
- FORD RANGER ไวลด์แทรค รุ่น 4x2 เกียร์ธรรมดา ราคาเริ่มต้น 979,000 บาท รุ่น 4x2 เกียร์ ออโต้ ราคา 1,029,000 บาท รุ่น 4x4 ราคา 1,265,000 บาท
- FORD RANGER แร็พเตอร์ ราคา 1,699,000 บาท
ถ้าสนใจก็ลองไปสัมผัสคันจริง หรือทดลองขับกันได้ที่โชว์รูมฟอร์ดทั่วประเทศ
TEST DRIVE by WWWDRIVINGPLACE.COM