MAZDA CX-8 2.5 SP มาพร้อมขนาดตัวถังที่ใหญ่โตใกล้เคียงกับรถอเนกประสงค์ในกลุ่ม PPV ที่ดัดแปลงจากรถกระบะ แต่การใช้งานโดยรวมจะแตกต่างด้วยความหรูหรา ขับและนั่งสบาย ใกล้เคียงกับรถยนต์นั่งระดับหรู ภายในห้องโดยสารเบาะนั่งเป็นแบบ 3 แถว รองรับผู้โดยสารได้ถึง 7 ที่นั่ง เน้นความกว้างขวางรองรับการใช้งานสำหรับครอบครับยุคใหม่ ทั้งในแง่ของพื้นที่การใช้งาน คุณภาพระดับพรีเมียม โดยมาสด้ากำหนดกลุ่มเป้าหมายหลักของรถรุ่นนี้ไว้อย่างชัดเจน คือผู้บริหารระดับสูง เป็นคนที่ประสบความสำเร็จรอบด้าน และมีไลฟ์สไตล์ในการดำเนินชีวิตที่แตกต่างทั้งด้านการทำงาน และชอบที่จะเติมเต็มความสุขให้กับครอบครัวในวันหยุดพักผ่อน
MAZDA CX-8 ยังคงความประณีตพิถีพิถัน ภายใต้ปรัชญา KODO design เช่นเดียวกับรถยนต์มาสด้ารุ่นอื่นๆ ที่เน้นความเรียบง่ายแต่งดงามจากคอนเซ็ปต์ Less is More เพื่อลดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปเหลือแต่ความสง่างาม เริ่มตั้งแต่ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นด้วยเส้นสายที่เรียบง่าย ดูสง่างาม ด้านหน้าชวนมองด้วยกระจังขนาดใหญ่แต่งโครเมี่ยม ผสานชุดไฟหน้ารูปทรงเรียวคมเป็นแบบ Projector Lens LED ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ และปรับระดับสูง-ต่ำแบบอัตโนมัติ พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED และด้านท้ายเด่นที่ชุดไฟท้าย แบบ LED Signature รูปทรงเฉียบคมอันเป็นเอกลักษณ์ของสปอร์ตครอสโอเวอร์ CX Series จากมาสด้า
ภายในห้องโดยสาร เลือกใช้วัสดุตกแต่งที่มีคุณภาพสูง มุ่งเน้นการออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานได้หลากหลาย โดยให้ความสำคัญกับพื้นที่ภายในห้องโดยสาร ความสะดวกสบาย สามารถรองรับการใช้งานจริงของผู้โดยสารในทุกตำแหน่งที่นั่ง โดยรุ่นเบาะแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง มาพร้อมกับเบาะที่นั่งแถวสองแบบ 3 ที่นั่ง สามารถปรับพับแยกได้แบบ 60:40 พร้อมพนักวางแขน ที่วางแก้วน้ำ และช่อง USB สำหรับชาร์จไฟ 2 ช่อง ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับครอบครัวได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเบาะแถว 3 ยังสามารถรองรับผู้โดยสารที่มีความสูงได้ถึง 170 ซม. และสามารถปรับพับแยกได้อย่างแบนราบแบบ 50:50 เพื่อจัดวางพื้นที่บรรทุกสัมภาระได้อย่างหลากหลาย
การตกแต่งภายในห้องโดยสารเลือกใช้สีโทนเข้ม พร้อมวัสดุตกแต่ง Real Wood ผสมผสานกับสีเงินซาตินโครม เบาะหนัง Nappa สีแดง Deep Red ตัดเย็บอย่างประณีตด้วยเส้นด้ายสีน้ำตาลเข้ม และเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เบาะนั่งในตำแหน่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง พร้อมระบบปรับเบาะดันหลังไฟฟ้า สามารถบันทึกตำแหน่งได้ 2 ตำแหน่ง เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมระบบอุ่นเบาะนั่ง Seat Warmer ระบบปรับเป็นแบบอากาศอัตโนมัติแบบ Tri Zone พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง ภาคบันเทิงรองรับการเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนผ่านระบบ Mazda Connect ที่มาพร้อม Apple CarPlay โดยแสดงข้อมูลผ่าน Center Display จอสีแบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว ระบบสัมผัสใช้งานได้เฉพาะเวลารถหยุดนิ่งหรือเคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่ำในรอบเดินเบา และสามารถควบคุมการสั่งงานด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander ด้านหลังฐานเกียร์ที่ใช้งานได้สะดวกสบาย
สมรรถนะการขับเคลื่อน ส่งต่อกำลังจากเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร (SKYACTIV-G 2.5) ที่ได้รับการปรับปรุงพัฒนาใหม่ พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่อัจฉริยะ Dual S-VT ได้รับการพัฒนาให้ตอบสนองดียิ่งขึ้น ให้แรงม้าสูงสุดถึง 194 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 258 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมแมนนวลโหมด Activematic ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า เน้นการพัฒนาให้มีความแรง แต่ประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดจากโรงงานเคลมค่ากลางไว้ที่ 13.5 กิโลเมตรต่อลิตร รองรับเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ออกเทน 95 E10 - E20
เครื่องยนต์เบนซินบล็อกนี้ ต้องถือว่าสมรรถนะความแรงมีให้ใช้อย่างเหลือเฟือ เพียงพอสำหรับการใช้งานทุกรูปแบบ กำลังของเครื่องยนต์แบกรับตัวถังขนาดใหญ่ได้สบาย อัตราเร่งช่วงออกตัวมาแบบเรื่อยๆไม่ถึงกับดึงกระชาก แต่ก็ถือว่าว่องไวทันใจเหมาะสมต่อการเป็นรถอเนกประสงค์สำหรับครอบครัวที่คนขับคงไม่ได้ขับเร็วกดหนักตลอดเวลา หรือถ้าต้องการเค้นความเร็วแบบจัดหนักก็มีโหมด SPORT ข้างๆคันเกียร์ช่วยเสริมให้ขับสนุก และปลอดภัยมากขึ้นเวลาเร่งแซงในรอบสูงๆ ส่วนช่วงการเดินทางไกลด้วยความเร็วคงที่ประมาณ 100-120 กม./ชม.รอบเครื่องยนต์อยู่ที่ประมาณ 2,000 - 2,500 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองช่วงนี้มีความหยืดหยุนตั้งแต่ 15-16 กม./ลิตร และถ้าจะขับแบบคนสูงไวที่แท้จริงใช้ความเร็ว 80-90 กม./ชม.ก็จะทำได้ประมาณ 18 กม./ลิตร ส่วนการขับขี่ในเมืองช่วงรถติดสลับหยุดนิ่งค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 9-11 กม./ลิตร ก็ถือว่าความประหยัดอยู่ในระดับที่ใช้ได้ไม่รู้สึกว่ากินน้ำมันมากเกินไป แม้ว่าจะใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาดค่อนข้างใหญ่
ส่วนการบังคับควบคุมรถ พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าให้น้ำหนักเบา เลี้ยวไว มีความแม่นยำสูง ช่วงความเร็วต่ำให้ความคล่องตัวใกล้เคียงรถเก๋งขนาดกลาง ด้วยรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.8 เมตร และช่วงความเร็วสูงจะแปรผันให้หนักมือขึ้นช่วยเพิ่มความมั่นใจในการควบคุมรถได้ดี ขณะที่ระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบแม็กเฟอร์สันสตรัท และแบบมัลติลิงค์หรือแขนยึดหลายจุดที่ด้านหลัง โดยรวมให้สัมผัสที่ดีทั้งด้านความนุ่มนวล นั่งสบาย ตลอดจนการรักษาเสถียรภาพของตัวรถได้อย่างมั่นคงทั้งการขับขี่บนทางตรง และการขับเข้าโค้งด้วยความเร็วที่เหมาะสม
MAZDA CX-8 รุ่นนี้ ยังมีระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ G-Vectoring Control หรือ GVC ที่ช่วยให้การขับขี่เวลาเลี้ยวโค้งทำได้อย่างแม่นยำ และสมดุล ด้วยการปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ให้ตอบสนองต่อการทำงานของพวงมาลัย เป็นการควบคุมแบบผสมผสานระหว่างแรงเร่งด้านข้าง และตามยาวของตัวรถ พร้อมปรับแรงกดในแนวดิ่งให้เหมาะสมลงสู่ล้อแต่ละล้อ ระบบ GVC จะควบคุมแรงบิดของเครื่องยนต์ให้ลดลงในขณะที่คนขับเริ่มหมุนพวงมาลัย ช่วยเพิ่มความกระชับของล้อหน้า และเพิ่มความสามารถในการตอบสนองของรถ หลังจากนั้นเมื่อผู้ขับขี่รักษามุมคืนพวงมาลัยคงที่ ระบบ GVC จะคืนแรงบิดของเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มเสถียรภาพของรถ ช่วยให้เห็นถึงพฤติกรรมของรถที่ราบรื่น และมีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับการบังคับรถของผู้ขับขี่ ระบบ GVC จึงมีประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรถเอสยูวี ซึ่งอาจจะมีแนวโน้มที่จะเกิดแรงกระทำด้านข้างรถอันเนื่องมาจากศูนย์กลางแรงโน้มถ่วงที่ค่อนข้างสูง ช่วยให้การตอบสนอง และความมั่นคงของรถดีขึ้น พร้อมช่วยลดการลื่นไถลออกด้านข้างของตัวผู้โดยสารในห้องโดยสาร ช่วยให้นั่งสบายมากขึ้น
Mazda CX-8 ยังอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยยุคใหม่ i-Activsense ที่จะช่วยคาดการณ์และส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ให้เพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุ โดยระบบความปลอดภัยที่มีการติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน มีทั้ง ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advanced Blind Spot Monitoring) และระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert) นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยอื่นๆ ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ อาทิ ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360° View Monitor), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Mazda Radar Cruise Control) ช่วยเสริมความปลอดภัยและลดความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ขณะเดินทางไกล , ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (Smart Brake Support) และระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advanced Smart City Brake Support ที่ได้เพิ่มขีดความสามารถในการตรวจจับคนเดินถนน เพิ่มความปลอดภัยให้ทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงผู้ใช้ถนนร่วมกัน
การทดลองขับบางช่วงเรามีโอกาสได้ทดลองระบบ Mazda Radar Cruise Control ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากคันหน้าโดยอัตโนมัติ เมื่อขับเข้าใกล้รถคันหน้าในระยะห่างที่กำหนดจากการตั้งค่าที่สวิทซ์บริเวณก้านพวงมาลัยด้านขวา รถจะลดและเพิ่มความเร็วให้เอง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบาย ผู้ขับไม่ต้องเบรกบ่อยๆ ทดลองแล้วใช้งานได้จริงมีประโยชน์อย่างมากเวลาเดินทางไกล อีกระบบที่น่าสนใจคือ ระบบเตือนการชนด้านหน้า เมื่อขับเข้าใกล้รถคันหน้าที่มีความเร็วช้ากว่า ระบบจะประมวลผลว่าอาจเกิดการชนจะส่งข้อความ พร้อมสัญญาณเสียงเตือน ช่วยให้ผู้ขับขี่ตื่นตัวในทุกสถานการณ์
โดยสรุปต้องถือว่า MAZDA CX-8 2.5 SP เป็นอีกหนึงทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถเอสยูวีหรู ขนาดใหญ่ รองรับการใช้งานได้อย่างครอบคลุมทั้งชีวิตประจำวัน และการท่องเที่ยวในวันหยุดพักผ่อนสำหรับครอบครัวใหญ่ ถ้าใครสนใจก็ลองไปสัมผัสของจริง ได้ที่ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์มาสด้าทั่วประเทศ แล้วคุณจะรู้จักความดีงามรถอเนกประสงค์รุ่นนี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น!!
การทำตลาด NEW MAZDA CX-8 แบ่งเป็น 4 รุ่นย่อย!
- CX-8 2.5 S SKYACTIV-G 2.5 7 ที่นั่ง ราคา1,599,000 บาท
- CX-8 2.5 SP SKYACTIV-G 2.5 7 ที่นั่ง ราคา 1,699,000 บาท
- CX-8 XDL SKYACTIV-D 2.2 7 ที่นั่ง ราคา 1,899,000 บาท
- CX-8 XDL EXCLUSIVE SKYACTIV-D 2.2 6 ที่นั่ง ราคา 2,069,000 บาท
TEST DRIVE By WWW.DRIVINGPLACE.COM