เมษายน 22, 2568

Login to your account

Username *
Password *
Remember Me

New Mazda CX- 5 | Mazda Sales (Thailand) Co., Ltd. | บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Drivingplace.com แหล่งรวม :: ข่าวสารยานยนต์ :: รถใหม่ :: ทดสอบรถ :: เทคนิคการขับรถ :: ครบทุกรูปแบบ!

มาสด้าเปิดตัว New Mazda2 Essential รถยนต์นั่งสปอร์ตซิตี้คาร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากลูกค้าชาวไทย พร้อมแนวคิด Nothing Else เลือกแล้วว่าใช่ ก็ไม่ต้องการอะไรอีก ด้วยดีไซน์ใหม่ล่าสุดบ่งความเป็นตัวตนที่ชัดเจน พร้อมฟังก์ชั่นที่เติมเต็มกับทุกไลฟ์สไตล์ในการขับขี่ เจาะกลุ่มเจนเนอเรชั่น Z ที่กำลังมองหารถยนต์คันแรกสำหรับการใช้งานที่ให้ความคุ้มค่ามากที่สุด และตอบโจทย์ความเป็นตัวของตัวเอง มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซินและสกายแอคทีฟคลีนดีเซล ใน 4 ทางเลือกใหม่ กับรุ่น PRIME, ULTRA และ SIGNATURE ทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแฮตช์แบค 5 ประตู เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ความสะดวกสบายและความปลอดภัยครบครัน เปิดราคาจำหน่ายที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นเริ่มต้นเพียง 529,000 บาท

พร้อมข้อเสนอพิเศษออกรถเริ่มต้นเพียง 26,450 บาท1 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี2 พิเศษสุดสำหรับลูกค้าครอบครัวมาสด้า รับฟรีบัตรน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท* เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาสด้ามุ่งมั่นยกระดับประสบการณ์ลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นในทุกบริบท ตามแนวทางที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อถ่ายทอดปรัชญาของแบรนด์ Joy Drives Lives ความสุขขับเคลื่อนชีวิต เพื่อเป็นแบรนด์ที่อยู่ในทุกช่วงเวลาการใช้ชีวิตของลูกค้า และเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการส่งมอบการบริการที่ดีที่สุด รวมถึงการมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมยานยนต์อันล้ำสมัย ทั้งด้านดีไซน์ สมรรถนะการขับขี่ คุณภาพระดับพรีเมี่ยม ครบครันในเรื่องความสะดวกสบายและเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลก ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปในทุกยุคสมัย ด้วยเหตุนี้ มาสด้าจึงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความสดใหม่อยู่เสมอ ด้วยการปรับโฉมและเปิดตัวสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของมาสด้าจะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดีที่สุด

การปรับโฉมและกลยุทธ์การตลาดและผลิตภัณฑ์ของมาสด้า2 ครั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับรถยนต์นั่งรุ่นยอดนิยมของมาสด้า และเพื่อให้ตรงต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น ภายใต้ชื่อใหม่ที่เรียกว่า New Mazda2 Essential มาพร้อมแนวคิด Nothing Else เลือกแล้วว่าใช่ ก็ไม่ต้องการอะไรอีก ถ่ายทอดดีไซน์ที่บ่งความเป็นตัวตนที่ชัดเจน และฟังก์ชั่นที่เติมเต็มกับทุกไลฟ์สไตล์ในการขับขี่ คงความโดดเด่นด้วยการออกแบบที่สง่างามทั้งภายนอกและภายใน ภายใต้ปรัชญา Kodo- Soul of Motion ที่พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มเจเนอเรชั่น Z ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของมาสด้า และยังคงให้ความคุ้มค่า คุ้มราคามากที่สุดในเซ็กเม้นต์นี้ ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหารถยนต์คันแรกในการใช้ชีวิต

เพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ New Mazda2 Essential จึงได้มีการวางกลยุทธ์ทางผลิตภัณฑ์ใหม่ ด้วยการปรับชื่อรุ่นย่อยใหม่และปรับโฉมให้โดดเด่นเข้าถึงกลุ่มลูกค้า พร้อมทั้งมีราคาจำหน่ายที่เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นรถยนต์มาสด้าในหลาย ๆ ด้านไว้อย่างเต็มเปี่ยม ทั้งการออกแบบที่สง่างาม ความประณีตของภายในห้องโดยสาร รวมถึงการออกแบบโดยเน้นหลักมนุษย์เป็นศูนย์กลาง เพื่อมอบความสนุกสนานในการขับขี่ ตามปรัชญา จินบะ-อิไต มาพร้อมกับทางเลือกของ 4 รุ่นใหม่ มีให้เลือกทั้งในรูปแบบตัวถังแบบซีดาน 4 ประตู และแบบแฮตช์แบ็ค 5 ประตู ประกอบด้วย

รุ่น PRIME มอบความ ”คุ้มสุด” เป็นรุ่นเริ่มต้นที่มาพร้อมเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 3 ลิตร ตอบโจทย์ทุกความต้องการให้ใช้ชีวิตได้แบบคุ้มค่าตั้งแต่เริ่มต้น มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานครบครัน โดดเด่นด้วยไฟหน้าโปรเจกเตอร์แบบ LED พร้อมการตกแต่งเพิ่มความสปอร์ตด้วยกระจังหน้าสีดำ วางราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นเพียง 529,000 บาท

รุ่น ULTRA มอบความ “สบายสุด” มาพร้อมเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร ครบครันด้วยเทคโนโลยีความสะดวกสบาย พร้อมฟังก์ชั่นที่รู้ใจและตอบโจทย์กับทุกมิติของการใช้ชีวิต ทั้งระบบ Entertainment และความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร อาทิ Mazda Connect ที่รองรับ Apple CarPlay® และ Android AutoTM พร้อมหน้าจอ Center Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ที่ควบคุมผ่าน Center Commander ตกแต่งภายในอย่างมีเอกลักษณ์ด้วยแผงคอนโซลหน้าไบโอพลาสติกแบบสี ผลิตจากวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย i-Activsense อาทิ ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance พร้อมกล้องมองหลังและเซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง ราคาจำหน่าย 589,000 บาท

รุ่น SIGNATURE มอบความ “พร้อมสุด” โดดเด่นด้วยดีไซน์การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์แบบ Sport Design พร้อมฟังก์ชั่นทั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยและความสะดวกสบายครบครัน ควบคู่กับสมรรถนะการขับขี่ที่สนุก มาพร้อมสองทางเลือกที่ดีที่สุด กับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 3 ลิตร ในรุ่น 1.3 Signature ภายนอกตกแต่งด้วยกระจังหน้าแบบ Sport Design กระจกมองข้างสีดำ ภายในตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนังสีดำ และผ้า Grand Luxe Suede® พร้อมกรอบช่องแอร์สีแดง วางราคาจำหน่าย 659,000 บาท และทางเลือกที่สองกับเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร ในรุ่น XDL Signature มาพร้อมหลังคาสีดำ ล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว สี Black Machining และดิสก์เบรกหลัง ประหยัดน้ำมันสูงสุด 26.3 กม./ลิตร พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย i-Activsense หลายระบบ วางราคาจำหน่าย 749,000 บาท

New Mazda2 Essential ยังคงโดดเด่นด้วยสมรรถนะการขับขี่ของเครื่องยนต์สกายแอคทีฟอันเลื่องชื่อ โดยมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร ที่ให้สมรรถนะการขับขี่และการประหยัดน้ำมันสูงสุด 22.3 กม./ลิตร และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1.5 ลิตร ที่ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยมและประหยัดน้ำมันสูงสุด 26.3 กม./ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระแบบแมนนวลโหมด Activematic นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบคววบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง หรือ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) เทคโนโลยีเฉพาะของมาสด้า ที่ช่วยควบคุมสมรรนะการขับขี่ให้แม่นยำ สมดุล และมาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ให้ทั้งความสะดวกสบายในการใช้งานที่คุ้มค่าตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้อย่างลงตัว

New Mazda2 Essential มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบป้องกันล้อล็อค 4W-ABS ระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC รวมถึงระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HLA เป็นต้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบ i-Activesense มากมายหลายระบบ ไม่ว่าจะเป็น

- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)

- ระบบเตือนเมื่อมีรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)

- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)

- ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced Smart City Brake Support)

- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ HBC (High Beam Control)

- ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control)

- ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ SBS (Smart Brake Support)

New Mazda2 Essential มีให้เลือกทั้งหมด 8 สี ประกอบด้วย

  • สีแดง โซลเรด คริสตัล (Soul Red Crystal)
  • สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray)
  • สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl)
  • สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black)
  • สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ (Platinum Quartz)
  • สีเทา โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray)
  • สีฟ้า แอร์ สตรีม บลู (Air Stream Blue)
  • สีเทา แอโร เกรย์ (Aero Gray)

สำหรับลูกค้าที่สนใจเป็นเจ้าของรถยนต์ New Mazda2 Essential สามารถชมรถคันจริงได้ภายในงานมอเตอร์ โชว์ 2025 ระหว่างวันที่ 26 มี.ค. – 6 เม.ย. 68 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี หรือที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษในช่วงเปิดตัว ออกรถเริ่มต้นเพียง 26,450 บาท1 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี2 และพิเศษสำหรับลูกค้าครอบครัวมาสด้า รับฟรีบัตรน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท*  

หมายเหตุ:

1 ออกรถเริ่มต้น 26,450 บาท คำนวณจากเงินดาวน์ 5% รุ่น 1.3 PRIME/1.3 PRIME SPORTS ราคา 529,000 บาท อัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด

2 ฟรี ประกันภัยชั้น 1 โดยผู้จำหน่าย และบริษัทประกันภัยที่ร่วมโครงการ ได้แก่ (1) บมจ. วิริยะประกันภัย (2) บมจ. ธนชาตประกันภัย (3) บมจ. ประกันภัยไทยวิวัฒน์ (4) บมจ. แอกซ่าประกันภัย

โปรดติดตามความเคลื่อนไหวและกิจกรรมของมาสด้าผ่านทางโซเชียลมีเดีย

เว็บไซต์ www.mazda.co.th และMazdaThailandOfficial: Facebook/YouTube/Instagram/LINE

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ชู 3 ไฮไลท์กลุ่มยนตรกรรมอีวีในงานมอเตอร์โชว์ 2025 กับโมเดลใหม่อย่าง NEW MG IM6 สู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการ และการเพิ่มสีสันใหม่กับอีวีรุ่นยอดนิยมอย่าง NEW MG4 ELECTRIC ด้วยสีใหม่ SOL BLUE เพิ่มความพรีเมียมมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเตรียมขยายไลน์อัพใหม่กับ NEW MG S5 EV ที่จะมาเติมความร้อนแรงให้กับตลาด B-SUV ด้วยจุดเด่น “ขับสนุก ชาร์จไว วิ่งไกล นั่งสบายพร้อม Lifetime Warranty” นอกจากนี้ยังมียนตรกรรมหลากหลายขุมพลังขับเคลื่อนที่มาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษให้ลูกค้าได้เป็นเจ้าของอย่างคุ้มค่าที่สุด ณ บูธ เอ็มจี หมายเลข A08 อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

มาสด้าสร้างเซอร์ไพรส์ใหญ่ให้ชาวไทยได้สัมผัสเป็นครั้งแรก โชว์สุดยอดเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคต ตามแนวทาง Multi-solution จัดแสดงนวัตกรรมใหม่ 2 รุ่น นำโดย Mazda Iconic SP คอนเซ็ปต์คาร์ของรถสปอร์ตคอมแพ็ค ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า รองรับการใช้พลังงานสะอาดหลากหลายรูปแบบ และ Mazda6e รถยนต์ไฟฟ้า 100% BEV รุ่นแรกจากมาสด้า ตอกย้ำจุดยืนในการส่งมอบเทคโนโลยียานยนต์ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน พร้อมเปิดตัวรถยนต์นั่งรุ่นยอดนิยม New Mazda2 Essential โดดเด่นเรื่องความคุ้มค่าและดีไซน์ที่ตอบโจทย์ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ทั้งยังแนะนำ New Mazda MX-5 35th Anniversary Edition รถสปอร์ตโรดสเตอร์รุ่นพิเศษที่เฉลิมฉลองการครบรอบ 35 ปี แบรนด์ไอคอนเจ้าตำนานความสนุกสนานในการขับขี่มาอวดโฉมพร้อมเปิดให้จองเป็นเจ้าของ ควบคู่กับรถยนต์มาสด้าครบทุกรุ่น ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ อาทิ ดอกเบี้ยต่ำสุด 0% ผ่อนนานสูงสุด 72 เดือน ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance ฟรีบัตรน้ำมันสำหรับเจ้าของรถมาสด้าและครอบครัว มูลค่าสูงสุด 30,000 บาท และฟรีโปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ MUS นานสูงสุด 7 ปี ณ บูธมาสด้า ในงาน มอเตอร์ โชว์ 2025 ระหว่างวันที่ 26 มี.ค. 68 – 6 เม.ย. 68 นี้ ที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี หรือรับข้อเสนอเดียวกันนี้ได้ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ

GWM (Thailand) เดินหน้าตอกย้ำการเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานอย่างต่อเนื่อง ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 กับไฮไลต์สำคัญเปิดตัวและประกาศอย่างเป็นทางการของนวัตกรรมรุ่นใหม่ล่าสุด ALL NEW GWM HAVAL H6 กับการปรับโฉมใหม่และอัปเกรดแบบเต็มพิกัด มาพร้อม 3 รุ่นย่อยในราคาแนะนำในช่วงการเปิดตัวอย่างเป็นทางการสุดคุ้มระหว่าง 929,000 – 1,149,000 บาท ทั้งรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริดที่มีการปรับเซ็ตระบบช่วงล่างใหม่จากการรับฟังเสียงของผู้บริโภค และรุ่นปลั๊กอิน-ไฮบริด ที่มอบระยะทางการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนได้มากถึง 150 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (NEDC) ไกลที่สุดในเซกเมนต์ ตอบโจทย์ทุกความต้องการของครอบครัวยุคใหม่ได้อย่างครบครัน และ NEW GWM ORA Good Cat กับเฉดสีใหม่ So Blue ที่เพิ่มลุคสปอร์ตแต่แฝงความน่ารักเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ร่วมด้วยทัพรถยนต์ครอบคลุมทุกพลังงาน ในหลากหลายเซกเมนต์ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าในทุกมิติ ภายใต้แนวคิด “GWM Go With More” ร่วมกับกลยุทธ์การมีผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง(User-Centric) ผู้ที่สนใจสามารถแวะเวียนเข้าสัมผัสนวัตกรรมรุ่นใหม่รวมถึงทัพรถยนต์พลังงานใหม่ทุกรุ่นของ GWM ได้อย่างใกล้ชิด พร้อมรับข้อเสนอพิเศษสุดคุ้ม ณ บูธ GWM A10 ณ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 – 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม 2568 – 6 เมษายน 2568 นี้

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ชวนลูกค้าสัมผัสความล้ำสมัย พร้อมดีไซน์สุดโฉบเฉี่ยว กับครั้งแรกของการจัดแสดงรถยนต์ฟูลไฮบริด 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี เพลย์ ร่วมด้วยแคมเปญพิเศษ ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46  พร้อมเดินหน้าประกาศความพร้อม ส่งทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต เตรียมลงสู้ศึกการแข่งขันรายการเอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ (เอเอ็กซ์ซีอาร์) 2025 ด้วยรถแข่ง ไทรทัน แรลลี่คาร์ และตอกย้ำความสำเร็จด้วยการคว้า 5 รางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี 2568 หรือCar of the Year 2025’

มร. เรียวอิจิ อินาบะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “จากที่เราได้เปิดตัวรถ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย ในวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา งานนี้จึงถือเป็นครั้งแรกที่ลูกค้าจะได้ชมการจัดแสดงรถ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ที่หลายๆ คนรอคอย รวมถึงรถ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี เพลย์ ซึ่งเป็นรถรุ่นพิเศษ จำนวนจำกัด โดยรถยนต์ทั้งสองรุ่นนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการพัฒนารถยนต์ฟูลไฮบริด พร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ดีไซน์ที่โดดเด่น และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”

“นอกจากนี้ เรายังมีข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองซื้อรถ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม และรับมอบรถภายในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ กับแคมเปญ “Early Bird Offers เฉพาะช่วงเปิดตัวเท่านั้น” โดยลูกค้าจะได้รับบัตรของขวัญที่พักโรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทารา มูลค่า 10,000 บาท รวมถึงโปรโมชั่นอื่นๆ อีกมากมายสำหรับรถยนต์ทุกร่น” มร. อินาบะ กล่าวเพิ่มเติม

ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ได้รับการพัฒนาร่วมกับทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ชาวไทยและมีฐานการผลิตที่โรงงานมิตซูบิชิ มอเตอร์ส แหลมฉบัง จ.ชลบุรี มั่นใจได้ในคุณภาพรถยนต์และบริการหลังการขายที่ครบครัน แบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อย ได้แก่ อิกไนท์ (Ignite) อัลทิเมท (Ultimate) และรุ่นท็อป อัลทิเมท เอ็กซ์ (Ultimate X) พร้อมสะกดทุกสายตาด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น ภายใต้แนวคิด ซิลก์กี แอนด์ โซลิด (Silky & Solid) สะท้อนความเรียบหรูแต่ทรงพลังในทุกมิติอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกกว่าในทุกการเดินทาง ผสานการทำงานของ 3 สุดยอดเทคโนโลยี ในแบบ MITSUBISHI e:MOTION ที่เหนือระดับไปอีกขั้น ด้วยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด Generation ใหม่ ให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยม แต่ประหยัดน้ำมันมากขึ้น เฉลี่ยอยู่ที่ 24.4 กิโลเมตร/ลิตร*  มาพร้อมกับ โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ หรือ 7 Drive Mode ให้ความปลอดภัย ลุยได้ในทุกสภาพถนน และระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) เพื่อการขับขี่ที่มั่นใจสูงสุดขณะเข้าโค้ง พร้อมช่วงล่างและระบบกันสะเทือนที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ ให้เหมาะกับทุกสภาพถนนในประเทศไทย จากการทดสอบจริงบนถนนของเมืองไทยกว่า 100,000 กิโลเมตร

นอกจากนี้ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ยังโดดเด่นและเหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน ไดมอนด์ เซนส์ (Diamond Sense)  แบบครบครัน ซึ่งรวมถึง กล้องมองภาพรอบคัน (Multi Around Monitor: MAM) พร้อมระบบตรวจจับการเคลื่อนไหว (Moving Object Detection: MOD) ถุงลม 6 ตำแหน่ง และอีกมากมาย พร้อมมอบความสะดวกสบายสูงสุดให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้วยห้องโดยสารกว้าง พื้นที่เก็บของหลากหลาย ตอบสนองไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบ โดยในรุ่นท็อป อัลทิเมท เอ็กซ์ (Ultimate X) ยังมาพร้อมระบบเสียงไดนามิค ซาวน์ ยามาฮา พรีเมียม (Dynamic Sound Yamaha Premium) และลำโพง 8 จุด เพื่อคุณภาพเสียงเหนือระดับอีกด้วย

อีกหนึ่งไฮไลต์ภายในงาน ได้แก่ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี เพลย์ และ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี เพลย์ รุ่นพิเศษ จำนวนจำกัด ที่ตอกย้ำความสำเร็จในฐานะผู้นำตลาดรถยนต์ครอบครัวอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งขนาดเล็ก ของรถจากซีรีส์ ‘มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์’ ที่มีการติดตั้งชุดแต่งจากโรงงานในโทนสีดำ ให้บุคลิกใหม่ที่โดดเด่น มีสไตล์ พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับในแบบ MITSUBISHI e:MOTION ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นในสไตล์สปอร์ตพรีเมียม ห้องโดยสารกว้างขวาง เบาะนั่งปรับพับได้หลากหลายรูปแบบและมีพื้นที่จัดเก็บสัมภาระที่ปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ ตอบโจทย์ทุกความต้องการ และรองรับไลฟ์สไตล์สุดแอ็กทีฟของครอบครัวยุคใหม่

ภายในงานยังจัดแสดง มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ไพร์ม ใหม่ มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ครบครันมากยิ่งขึ้น ในราคาจำหน่ายเท่าเดิม เพิ่มความคุ้มค่าด้วยการยกระดับความสะดวกสบายและความปลอดภัยสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน ไดมอนด์ เซนส์ (Diamond Sense) เพื่อความมั่นใจในทุกการเดินทาง และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น ภายในห้องโดยสารสะดวกสบาย สะท้อนความหรูหราและทันสมัย

ปิดท้ายด้วย มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังไฮเปอร์ พาวเวอร์ เอ็กซ์ทู (Hyper Power X2) กำลังสูงสุด 204 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร ตอบสนองไลฟ์สไตล์สปอร์ตพรีเมียมด้วยรูปลักษณ์โดดเด่นมีสไตล์ สะกดทุกสายตา ห้องโดยสารสะดวกสบายทุกจุด ผสานดีไซน์ภายในสีทูโทน เหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะรอบคัน ‘Diamond Sense’ พร้อมระบบพวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฟฟ้า (Electric Power Steering: EPS) และระบบขับเคลื่อน ซูเปอร์ซีเล็คต์ โฟร์วีลไดร์ฟ ทู (Super Select 4WD II) เอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ซึ่งสามารถเปลี่ยนโหมดเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) ได้ทันทีแม้ในขณะขับขี่ด้วยความเร็ว (Shift-on-the-Fly) ทั้งยังสามารถขับเคลื่อน 4 ล้อฟูลไทม์ (Full-Time All Wheel Control) เสริมความปลอดภัยให้ขับขี่คล่องตัวพร้อมตะลุยทุกสภาพอากาศและพื้นผิวถนนทุกรูปแบบด้วย 7 โหมดการขับขี่ และระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC)

นอกจากการขนทัพสุดยอดยนตรกรรมมาจัดแสดงแล้ว มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังประกาศความพร้อมเตรียมส่งทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต ลงสู้ศึกเอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ หรือ เอเอ็กซ์ซีอาร์ 2025 ด้วยรถแข่ง ไทรทัน แรลลี่คาร์ โฉมใหม่*  เพื่อกลับมาทวงตำแหน่งแชมป์อีกครั้ง พร้อมประกาศความสำเร็จที่ได้คว้า 5 รางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี 2568 หรือCar of the Year 2025’ จากบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำความเป็นเลิศด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์ สมรรถนะ และความพึงพอใจของลูกค้า รางวัลอันทรงเกียรติเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในการพัฒนาด้านวิศวกรรม นวัตกรรม และเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ในทุกกลุ่มยานยนต์ โดยรถมิตซูบิชิ ที่ได้รับรางวัลนปีนี้ ประกอบด้วย

  • มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี : รางวัลรถอเนกประสงค์ไฮบริดขนาดเล็ก เครื่องยนต์ต่ำกว่า 1,600 ซีซี ยอดเยี่ยม
  • มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท : รางวัลรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์ต่ำกว่า 2,500 ซีซี ยอดเยี่ยม
  • มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีลีท : รางวัลรถอเนกประสงค์ ขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์ต่ำกว่า 2,500 ซีซี ยอดเยี่ยม
  • มิตซูบิชิ แอททราจ : รางวัลรถยนต์อีโคคาร์ 4 ประตู ราคาคุ้มค่า ยอดเยี่ยม
  • มิตซูบิชิ มิราจ : รางวัลรถยนต์อีโคคาร์ ประหยัดน้ำมัน ยอดเยี่ยม

สนใจสามารถชมรถยนต์ มิตซูบิชิ ทุกรุ่นได้ที่บูธมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย (A9) ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 หรือ Bangkok International Motor Show 2025 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1 - 3 เมืองทองธานี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และนัดหมายเพื่อทดลองขับได้ที่ www.mitsubishi-motors.co.th หรือ มิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 เปิดรับสายทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

*รถแข่ง ไทรทัน แรลลี่คาร์ โฉมใหม่ จะถูกจัดแสดงที่บูธมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เฉพาะในวันแถลงข่าวเท่านั้น

Trending Now11

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์

Post Gallery

ซูซูกิ เปิดศูนย์ซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานเพิ่ม 3 แห่ง ยกระดับบริการแบบ S-SOLUTION ครบครัน มุ่งสร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้า  พร้อมตั้งเป้าขยายครบ 50 แห่ง ในปี 2568

บางจากฯ จับมือเอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ดันนักแข่งไทยสู่สนาม Formula 3 พร้อมเติม Bangchak Hi Premium 97 เป็นน้ำมันถังแรกให้ Porsche, Bentley และ Harley - Davidson ทุกคันที่ออกจากศูนย์

กรังด์ปรีซ์ฯ ร่วมมือรายการดัง R.C.S ประเทศญี่ปุ่น จัด "GRANDPRIX RUNBIKE CHAMPIONSHIP AFFILIATED WITH R.C.S JAPAN. 2025"

ฟอร์ดแนะ 5 จุดเช็กสำคัญหลังเดินทางไกล พร้อมโปรแกรมดูแลรถสุดคุ้ม เพื่อให้รถพร้อมลุยต่อทุกเส้นทาง

OMODA & JAECOO ผนึกกำลังจัดทัพผู้บริหารระดับแนวหน้า  พร้อมนำแบรนด์ Chery มุ่งสู่การแข่งขันในตลาดไทยอย่างเต็มตัว

75 ปีแห่งการผลิตรถยนต์ปอร์เช่ที่ซุฟเฟนเฮาเซน (Zuffenhausen)

GWM รุกตลาดส่งออกเต็มพิกัด สู่อาเซียน ลาตินอเมริกา และออสเตรเลีย  เพิ่มกำลังการผลิตในไตรมาสสอง ณ โรงงานอัจฉริยะ จังหวัดระยอง  เดินหน้าผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตระดับโลก

“เติ้น-ทัศนพล อินทรภูวศักดิ์” กับบทพิสูจน์สนามสุดท้าทายที่บาห์เรน ในศึก FIA Formula 3 Championship 2025 – Round 2

“ลามิน่าฟิล์ม” แบรนด์ที่ผู้บริโภคเชื่อมั่นสูงสุดในประเทศไทย!