กิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นพิเศษครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมส่งเสริมการยอมรับความหลากหลาย ความเท่าเทียม และความแตกต่าง (Diversity, Equity and Inclusion) โดยพนักงานฟอร์ดในประเทศไทยร่วมกันระดมทุนด้วยการประมูลสิ่งของต่างๆ ในโอกาสวันบุรุษสากลเมื่อปีที่ผ่านมา โดยฟอร์ดได้นำเงินบริจาครวม 150,099 บาท มอบเป็นทุนการศึกษาให้กับนักเรียนภายใต้การดูแลของมูลนิธิ เอช เอช เอ็น เพื่อเด็กไทย

ระหว่างเยี่ยมชมสายการผลิต นักเรียนที่ได้สัมผัสบรรยากาศการทำงานจริงในโรงงานขึ้นรูปตัวถังรถ และโรงงานประกอบชิ้นส่วนรถยนต์ ต่างตื่นเต้นที่ได้เห็นการผลิตรถกระบะ ฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ ด้วยพนักงานที่มีทักษะและกระบวนการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัยเพื่อให้มั่นใจว่ารถทุกคันมีคุณภาพและได้มาตรฐาน นอกจากนี้ ผู้บริหารและพนักงานระดับปฏิบัติการของฟอร์ดที่ได้พัฒนาศักยภาพของตนจนได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นระดับหัวหน้างาน ยังได้ร่วมเล่าประสบการณ์และแรงบันดาลใจในการก้าวไปสู่ความสำเร็จของตนให้แก่นักเรียนได้ฟัง

มร. วินโค้ ซาริค ผู้จัดการโรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง กล่าวว่า “เราดีใจมากที่ได้เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและตื่นเต้นของเด็กๆ บางคนอยากรู้ว่าถ้าเขาสนใจงานด้านไอทีจะมีงานอะไรบ้างในโรงงานที่เขาทำได้ และบางคนก็บอกว่าพวกเขาจะกลับมาอีกในฐานะวิศวกรเครื่องกล ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับเราที่เด็กๆที่มาในวันนี้ได้รับแรงบันดาลใจว่าเขาสามารถทำทุกอย่างให้สำเร็จได้ และพวกเขามีโอกาสที่จะเติบโตในสังคมต่อไป ไม่ว่าภูมิหลังของพวกเขาจะเป็นเช่นไร”

นายศิโรเมศร์ อัครพงษ์พานิช รองผู้อำนวยการ มูลนิธิ เอช เอช เอ็น เพื่อเด็กไทย  กล่าวว่า “การมาเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถยนต์ฟอร์ดในครั้งนี้ อาจเป็นประสบการณ์สุดพิเศษในชีวิตเพียงครั้งเดียวของเด็กๆ หลายคน เนื่องจากผู้ปกครองของพวกเขาเป็นแรงงานข้ามชาติที่จำเป็นต้องย้ายที่อยู่บ่อยๆ เนื่องจากความจำเป็นด้านอาชีพ เราขอขอบคุณทีมงานฟอร์ดทุกคนที่เปิดโลกทัศน์ให้เด็กๆ ได้มีโอกาสเห็นสภาพแวดล้อมการทำงานจริง และทำให้พวกเขาได้รู้ว่าโลกภายนอกยังมีงานอีกหลายอย่างที่น่าสนใจ งานที่พวกเขาอาจไม่เคยรู้จักมาก่อน กิจกรรมในวันนี้นับเป็นการสร้างแรงบันดาลใจและสร้างฝันให้กับเด็กๆ กลุ่มเปราะบางที่ดีมาก นอกจากนี้ เขายังได้เรียนรู้อีกว่าฟอร์ดเป็นองค์กรระดับโลกที่เปิดกว้าง และให้ความสำคัญกับความหลากหลายของพนักงาน ที่สำคัญ ทุกคนที่นี่ทำงานกันแบบครอบครัว”