สำหรับ “PLUG AND CHARGE” เป็นฟังก์ชันที่ให้ความสะดวกสบายกับลูกค้าเอ็มจี เพื่อลดขั้นตอนการใช้บริการสถานี MG SUPER CHARGE เพียง 3 ขั้นตอน ดังนี้
- ปลดหัวชาร์จออกจากตู้ MG SUPER CHARGE
- เสียบหัวชาร์จเข้ากับตัวรถ ตู้ชาร์จจะตรวจสอบข้อมูลและเริ่มการชาร์จโดยอัตโนมัติ
- เมื่อชาร์จเสร็จ หรือต้องการหยุดการทำงาน เพียงกดปุ่ม Stop บนหน้าจอ MG SUPER CHARGE และใส่Password*
*สามารถตรวจสอบ Password ได้ใน i-SMART APP
สำหรับลูกค้าที่เป็นเจ้าของรถ MG ZS EV และ MG EP ก็สามารถใช้งาน “PLUG AND CHARGE” ได้เพียงนำรถเข้าไปที่ศูนย์บริการเอ็มจี ทั่วประเทศ เพื่ออัพเดทฟังก์ชัน และเติมเงินใน MG WALLET ให้เพียงพอสำหรับการชาร์จ ปัจจุบันมีสถานี MG SUPER CHARGE ที่รองรับระบบแล้ว 35 แห่งในกรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ ในอนาคตทาง บริษัทฯ มีแผนอัพเกรดสถานีให้ครอบคลุมครบทุกสถานีภายในปีนี้
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ฟังก์ชัน “PLUG AND CHARGE” เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันความสะดวกสบายที่เราเพิ่มให้กับลูกค้าเอ็มจี เพราะเป้าหมายของเอ็มจีไม่ใช่เพียงแค่การขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเท่านั้น สิ่งที่เราทำมาโดยตลอดคือการสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าให้มีความแข็งแกร่ง ซึ่งสถานีชาร์จเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญ ล่าสุดได้มีการวางแผนผลักดันการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จให้มีมากถึง 153 แห่ง ทั่วประเทศ จากการร่วมมือกับ ศูนย์บริการเอ็มจีทั่วประเทศไทย และสถานีบริการน้ำมันบางจาก โดยมีเป้าหมายหลักคือการมีสถานีชาร์จ MG SUPERCHARGE ทุกๆ 150 กิโลเมตร นอกเหนือจากการเพิ่มจำนวนสถานีชาร์จแล้ว การพัฒนาสถานีชาร์จให้ตอบโจทย์การใช้งานได้ดียิ่งขึ้น ก็เป็นเรื่องสำคัญที่เราไม่เคยมองข้าม ฟังก์ชัน “PLUG AND CHARGE” จึงเป็นอีกหนึ่งความสะดวกสบายที่พร้อมส่งมอบให้กับลูกค้าเอ็มจีโดยเฉพาะ”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของรถยนต์ สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG CALL CENTRE โทร. 1267
และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมของเอ็มจีได้ที่
Website: www.mgcars.com
Line: @MGThailand
Facebook: www.facebook.com/MGcarsThailand
Twitter: @mg_thailand
Instagram: @mgthailand
Youtube: MG Thailand
TikTok: @mgthailand